พระส่วนใหญ่ในนี้ผมเก็บไว้...ใน..กรุ.!.ธนาคาร กรุงเทพ มานาน 38 ปี

10030-เหรียญผูกพัทธหลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลังยันต์ตะกร้อ พระครูสมุทรธรรมสุนทร วัดกาหลง สมุทรสาคร 2506

พระสะสมเพื่อศึกษา(ชัยดวงแก้ว)














พระ    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เหรียญรุ่นแรก ปี2506
            เหรียญผูกพัทธหลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลังยันต์ตะกร้อ


รายละเอียด:
พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร

        หลวงพ่อสุดท่านเป็นชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดวันที่ 7 พฤษาภาคม 2445 บิดาชื่อ นายมาก มารดาชื่อ น่างอ่อนศรี  เกิดวันที่ 7 พฤษาภาคม 2445 ท่านเป็นคนที่เกิดจากตระกูลชาวนา  ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

        ต่อมาเมื่ออายุ 16 ปี หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2461 ที่วัดกลางพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พระครูเม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้เป็นอาจารย์องค์สำคัญที่หลวงพ่อให้ความเคารพนับถืออย่างมาก  ก่อนหน้าที่จะบวชเณร หลวงพ่อได้รับวิทยฐานะสำเร็จชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดฟ้าหยาด ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด  เมื่อบวชเณรได้ระยะหนึ่ง หลวงพ่อก็เดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดมุ่งเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรมจากสำนักเรียนในกรุงเทพ เข้าใจว่า หลวงพ่อคงจะมาบวชเป็นพระที่วัดกาหลง นี่เอง ทั้งนี้เพราะใน พ.ศ. 2481 อายุได้ 36 ท่านสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดกาหลง

ด้านการปกครอง
        พ.ศ.2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดกาหลง
        พ.ศ.2479เป็นเจ้าคณะหมวด
        พ.ศ.2484เป็นเจ้าคณะตำบล
        พ.ศ.2495เป็นสาธารณูปการอำเภอ

ด้านการศึกษา
        พ.ศ.2482เป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดกาหลง
        พ.ศ.2485 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
        พ.ศ.2495 เป็นกรรมการการตรวจธรรมสนามหลวง

ด้านสมณศักดิ์
        พ.ศ.2490 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นตรี
        พ.ศ.2511 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นโท
        พ.ศ.2517 เป็นพระครูสัญยญบัตรชั้นเอก

ด้านวิชาศึกษาด้านอาคม
        1.หลวงปู่เม้า วัดกลางพนมไพร(พระที่บวชให้ท่านในสมัยตอนเป็นเณร)
        2.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบื่อ (สำหรับหลวงพ่อรุ่ง ในปี 2484 หลวงพ่อสุดเป็นเจ้าคณะตำบล หลวงพ่อรุ่งได้จัดเหรียญรุ่นแรกของท่านหลวงพ่อสุดได้อยุ่ในการร่วมสร้างเหรียญนี้ด้วยเช่นกัน)
        3.หลวงพ่อคง วัดบางกระพล้อม (เป็นพระที่หลวงพ่อสุดนับถือมาก)อื่นๆอีกหลายท่าน

        พระครูสมุทรธรรมสุนทร ถึงแม้ท่านมิใช่คนสมุทรสาคร แต่ท่านก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของชาวทะเลเลือดสมุทร เพราะคนในแถบจ.สุทรสาครท่านก็ได้เมตตาช่วยเหลือมาตลอด และเป็นที่รักของลูกศิษลูกหา  ในสมัยที่หลวงพ่อสุดนั้นยังมีสังขารอยู่ ท่านได้ร่วมกิจนิมนต์ หลายพิธีไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง หรือมากกว่า เช่นพิธี ปลุกเสกพระพุทธ 25 ศตวรรษ


ข้อมูลจากหนังสือ หลวงพ่อสุดวัดกาหลง จ.สมุทสาคร
  แรก ๆ ที่หลวงพ่อสุด ท่านมาอยู่วัดกาหลง  ท่านเป็นอาจารย์สักยันต์ มีลูกศิษย์มาขอสักยันต์กับท่านกันหลายคน แต่ละคนเมื่อได้รับการสักยันต์จากท่านไปแล้วมีประสบการณ์ทางคงกระพันและมหาอุดกันมาก จึงทำให้ชื่อเสียง ของท่านโด่งดังและมีลูกศิษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนทั่วประเทศ หลวงพ่อสุดท่านออกเหรียญครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2506 ในงานผูกพันธสีมาของวัดกาหลง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อสุดหน้าตรงครึ่งองค์ ด้านหลังเป็น "ยันต์ตะกร้อ" ซึ่งยันต์นี้ไม่มีปรากฏในตำราเล่มใดมาก่อน แต่หลวงพ่อสุดท่านได้นำเอาอักขระคาถาต่าง ๆ หลายบทมาประดิษฐ์ ผูกแต่งให้อยู่ในเส้นลายตะกร้อ ถ้าใครอ่านภาษาขอมได้ก็จะเห็นว่าคาถาแต่ละบทจะจบได้ในแต่ละช่องพอดี นับเป็นการแสดงถึงความเป็นอัจฉริยะแตกฉานในพระเวทย์วิทยาคม อันลึกซึ้งและแตกฉานของท่านยิ่งนัก และยันต์ตะกร้อนี้ต่อมาหลวงพ่อสุดก็ได้นำมาใช้ประทับอยู่ด้านหลังวัตถุมงคลทุก ๆ รุ่นที่ท่านสร้าง ของเก๊ฝีมือเฉียบมาก จุดหนึ่งที่ควรจดจำเพื่อเป็นจุดสังเกตคือ ของแท้ปลายจมูกของหลวงพ่อสุดจะมีลักษณะนูนขึ้นมากกว่าปกติ ถ้าปลายจมูกไม่นูนอย่างนี้หรือ มีลักษณะเหมือนจมูกคนธรรมดา แล้วต้องยกการ์ดสูงไว้ครับ

        มีเรื่องเล่าถึงประสบการณ์ของเหรียญหลวงพ่อสุด อยู่หลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น อดีตนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ได้เครื่องรางของหลวงพ่อสุดไปเป็นเหรียญเสือเผ่นและรอยสัก ขณะที่รับราชการอยู่เขาถูกส่งไปปราบผู้ก่อการร้ายที่ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ.2519 แล้วโดนถล่มขณะอยู่บนรถจีเอ็มซี เพื่อนคนหนึ่งถูกยิงจนตาตุ่มหายไปทั้งแถบ ส่วนตัวเองถูกยิงห้านัด กระสุนเข้ากลางหลังตรงยันต์พอดี เสื้อทะลุเป็นรูแต่กระสุนกลับไม่เข้าเนื้อและไม่มีบาดแผลเพียงแต่เป็นรอยจ้ำๆ เท่านั้น

        ส่วนอีกคนเป็นศิษย์หลวงพ่อสุดเหมือนกันคนนี้เป็นโรคที่ตา ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการรักษาต้องฉีดยาเพื่อผ่าตัด เข้าใจว่าเป็นยาชา แต่พอฉีดเข็มฉีดยากลับไม่เข้าเนื้อ เพราะคนนี้หลวงพ่อสุดสักน้ำมันครอบไว้ ผลสุดท้ายต้องมานิมนต์หลวงพ่อสุดไปโรงพยาบาลเพื่อทำพิธีถอน คนป่วยจึงได้รับการฉีดยาและผ่าตัดเรียบร้อย 
 มีเกร็ดเล็กน้อย เกี่ยวกับยันต์ตะกร้อ  เคยมีคนถามหลวงพ่อสุดว่าทำไมถึงใช้ยันต์ตะกร้อ  หลวงพ่อสุดท่านตอบว่าเคยเห็นไหมว่ามีใครเตะตะกร้อและพังในที 2ที ส่วนมากตะกร้อจะทนทานและเหนียว  ใครเตะด้วยเท้าเปล่าก็เจ็บเท้า เพราะตะกร้อทนทานนั่นเอง  หลวงพ่อท่านบอกว่า เคยคิดจะเขียนยันต์อะไรดีที่ไม่ให้ซ้ำกับพระเกจิรูปอื่น พอดีท่านหันไปเห็นเด็กในวัดเล่นตะกร้อกัน จึงนึกขึ้นมาได้ ว่าตะกร้อมีความสวยงามและปราณีตมาก(ตะกร้อสมัยก่อน) อีกทั้งยังทนทาน อีก เตะยังไงก็ไม่พัง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น